ปริศนา คดีหญิงวัย 49 ขับเก๋งยิงตัวเองดับ 2 นัด บนด่วนบูรพาวิถี

ปริศนา คดีหญิงวัย 49 ขับเก๋งยิงตัวเองดับ 2 นัด บนด่วนบูรพาวิถี

คดีแปลกระคนปริศนา สาว 49 ขับรถขึ้นทางด่วนบูรพาวิถี ก่อนยิงตัวเอง 2 นัด รถเสียหลักพุ่งเข้าข้างทางเจ้าหน้าที่ไปพบนอนเสียชีวิต ร้อน สภ.บางปะกง เร่งคลี่คลายปม แถมถามญาติ บอกผู้ตายไม่เคยเล่าอะไรให้ฟัง รายงานเหตุคดีที่ยังคงเต็มไปด้วยข้อสงสัย หลังจากเมื่อเวลา 07.00 น. ของวันนี้ (3 ต.ค. 65) เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บางปะกง จ.ฉะเชิงเทรา ได้รับแจ้งเหตุพบผู้เสียชีวิตถูกยิงภายในรถยนต์อเนกประสงค์ โดยเหตุเกิดบนทางด่วนบูรพาวิถี กม.35+800 ขาเข้าชลบุรี หมู่ 1 ต.หอมศีล อ.บางปะกง

ภาพจากกล้องวงจรปิดที่เกิดเหตุ พบช่วงเกิดเหตุเวลา 05.23 น. 

รถยนต์คันดังกล่าวของหญิงวัย 49 ปี ต่อมาทราบชื่อ น.ส.กาญจนา วิงสวัสดิ์ อายุ 49 ปี ชาวบ้านย่าน ซ.ราชพฤกษ์ 4 แขวงคูหาสวรรค์ เขตภาษีเจริญ กรุงเทพมหานคร ผู้เสียชีวิตเป็นพนักงานบริษัทแห่งหนึ่งที่ ศรีราชา จ.ชลบุรี ก่อนเเกิเหตุได้ขับรถมุ่งหน้าเข้าชลบุรี โดยวิ่งอยู่เลนกลาง ก่อนจะค่อยๆ เสียหลักขับเบี่ยงไปเลนขวาไปประมาณ 15 เมตร ก่อนจะไปชนแบริเออร์ข้างทางก่อนจะจอดหยุดนิ่ง

หลังตรวจสอบจุเกิดเหตุ พบรถยนต์อเนกประสงค์ ฮอนด้า เอชอาร์วี สีบรอนซ์ ทะเบียน 5กน 2816 กรุงเทพมหานคร จอดติดเครื่องยนต์อยู่ในช่องทางขวา ยังมีการเข้าเกียร์อยู่ ส่วนประตูพบปิดล็อกทุกบาน

ด้านเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ รายงานสภาพศพผู้ตายถูกยิงเข้าที่ขมับขวาเป็นแผลขนาดใหญ่ประมาณ 8 ซม. และมีรอยกระสุนออกด้านขมับซ้าย 1 รู ส่วนหลังคาบริเวณที่นั่งผู้โดยสารพบกระสุนฝังอยู่ 1 นัด

ภายในห้องโดยสาร พบปืนลูกโม่ .38 ตกอยู่บริเวณข้างประตูรถฝั่งคนขับ ตรวจสอบพบปลอกกระสุน 2 นัดในรังเพลิง และเหลือกระสุนอีก 3 นัดที่ยังไม่ได้ใช้งาน เจ้าหน้าที่จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน ก่อนจะนำร่างส่งชันสูตรเบื้องต้นที่โรงพยาบาลบางปะกง และจะส่งผ่าพิสูจน์วิถีกระสุนที่นิติเวชต่อไป

ทั้งนี้ ข้อมูลจาก พ.ต.ต.นพดล ทวีชาติ สว.(สอบสวน) สภ.บางปะกง ระบุ คดีนี้ยังไม่ทราบสาเหตการเสียชีวิตที่แน่ชัด ต้องรอติดต่อญาติ โดยช่วงที่โทรสอบถามญาติก็ไม่มีใครทราบว่าเรื่องราวมีที่มาที่ไปอย่างไร เพราะผู้ตายไม่เคยเล่าอะไรให้ทางญาติฟัง

ข้อมูลของผู้ตายจากการให้ข้อมูลของเจ้าหน้าที่ตำรวจ เปิดเผยว่า ปกติผู้ตายจะทำงานอยู่ที่บริษัทด้านอุตสาหกรรมโครงสร้างโลหะที่ อ.ศรีราชา วันธรรมดาจะพักอยู่ที่หอพัก วันเสาร์-อาทิตย์ ถึงจะกลับบ้านมาอยู่กับมารดาที่กทม. ส่วนปืนที่พบเป็นของบิดานอดีตตำรวจ ซึ่งพ่อผู้ตายก็ได้เสียชีวิตไปแล้ว ดังนั้นถึงตอนนี้ทุกอย่างเกี่ยวกับคดีสาววัย 49 ปี นี้ยังต้องรอกองพิสูจน์หลักฐานตราวจสอบทั้งหมด

คดี เปรี้ยวหั่นศพ

สำหรับคดีต่อมาที่ถูกพูดถึงไปทั่วทั้งประเทศและเป็นคดีที่เกิดขึ้นได้ไม่นานคือ “คดีเปรี่ยวหั่นศพ” เป็นคดีฆ่าหั่นศพที่เกิดขึ้นในปี พ.ศ. 2560 ซึ่งมีสาเหตุมาจากเรื่องหนี้สินและยาเสพติด โดยมีผู้พบศพหญิงสาวถูกหั่นเป็น 2 ท่อน ฝังไว้ใต้ดินในป่าบ้านโนนสง่า ต.คำม่วง อ.เขาสวนกวาง จ.ขอนแก่น

คดีนี้ตำรวจตรวจสอบพบว่าผู้ตายชื่อแอ๋ม อายุ 23 ปี เป็นสาวร้านคาราโอเกะ ด้วยเหตุนี้เองจึงทำให้ตำรวจตรวจสอบหลักฐานจากภาพในกล้องวงจรปิดที่ร้านคาราโอเกะ ก่อนจะออกหมายจับ เปรี่ยว เอิร์น แจ้ วศิน และเบนซ์

สำหรับการจับกุมในครั้งนี้ วศินถูกจับกุมได้ที่ประเทศลาว ส่วนเปรี้ยว เอิร์น และแจ้ ที่หนีไปกบดานยังประเทศเมียนมาก็ถูกทางการเมียนมาจับกุมตัวและส่งให้เจ้าที่ตำรวจในไทยดำเนินคดีต่อไป

หลังจากถูกจับกุมดำเนินคดีแล้ว เปรี้ยวและพวกอีก 3 คน ถูกตัดสินจำคุก 34 ปี 6 เดือน ส่วนวศินถูกเพิ่มโทษจากผู้สนับสนุนฆ่าเป็นร่วมกันฆ่า จึงถูกลงโทษจำคุก 23 ปี 4 เดือน 20 วัน

คดีฆ่าหั่นศพสาวเล็บแดง ปิดท้ายกันไปด้วย “คดีฆ่าหั่นศพสาวเล็บแดง” ที่บอกเลยว่าความสะเทือนขวัญนั้นสุดจะบรรยายไม่แพ้คดีอื่น ๆ โดยคดีนี้เกิดขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2557 ชาวบ้านในตำบลสำโรงเหนือ จังหวัดสมุทรปราการ เป็นคนพบชิ้นส่วนมนุษย์ถูกทิ้งไว้ในพงหญ้าใกล้กับปั๊มน้ำมันแห่งหนึ่ง

นอกจากนี้ยังมีชาวบ้านในบริเวณพื้นที่ต่าง ๆ ทั้งที่สำโรงเหนือ และแถวถนนสุขุมวิทสายเก่า พบชิ้นส่วนอวัยวะมนุษย์ โดยศพของเหยื่อนั้นมีลักษณะเด่นคือทาเล็บสีแดง เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าตรวจสอบก็พบว่าอวัยวะที่พบในสถานที่ต่าง ๆ มาจากคนเดียวกันคือ น.ส.สมยศ นมัสการ

ภายหลังจากที่สืบสวนคดีก็ได้รู้ว่าคนร้ายคือ นายธานี พ่อแก้ว แฟนเก่าของสมยศ โดยเหตุแห่งการฆาตกรรมสยองในครั้งนี้มาจากความหึงหวง ภายหลังจากที่พบศพของ น.ส. สมยศ ได้สามวัน ตำรวจก็ได้เข้าจับกุมตัวนายธานีทันที

ทั้งนี้นายธานีก็ได้รับสารภาพว่าเป็นผู้ลงมือก่อเหตุจริง โดยหลักฐานที่ตำรวจพบหลังเข้าจับกุมคือรูปวาดของนายธานีที่วาดภาพ น.ส.สมยศ ไว้เพื่อวางแผนว่าจะชำแหละส่วนใดของศพก่อน สุดท้ายแล้วหลังถูกจับกุมตัว ศาลชั้นต้นก็ได้ตัดสินลงโทษนายธานีด้วยการให้ประหารชีวิต

Hybrid Scam หลอกรักชวนลงทุน คนร้ายเป็นแก๊งชาวจีน เริ่มต้นด้วยการสร้างบัญชีทางสื่อสังคมออนไลน์ปลอม โดยใช้รูปหญิงสาวสวยชาวเอเซีย น่าเชื่อถือ ลักษณะเหมือนนักธุรกิจ เข้ามาเข้ามาทักทายเหยื่อ(เป็นผู้ชายอายุ30ปีขึ้นไปที่เข้าใจระบบการลงทุนออนไลน์)ผ่านทางสื่อสังคมออนไลน์ แล้วสร้างความสัมพันธ์ระหว่างกัน พอเหยื่อหลงเชื่อหรือหลงรัก คนร้ายก็จะบอกกับเหยื่อว่ามีธุรกิจใหม่น่าลงทุน ผลตอบแทนสูง เช่น การเทรดค่าเงินต่างประเทศ อ้างว่าได้กำไรแน่นอน

Credit : แนะนำสถานที่ท่องเที่ยว | แต่งบ้านและสวน | พระเครื่อง | รีวิวกล้องถ่ายรูป