ตำรวจจับได้แล้วคนร้ายก่อเหตุ ไรเดอร์ชิงเงิน 3 ล้าน ความจริงปรากฎสองพี่น้องร่วม จัดฉาก ให้น้องชายมาขโมยเงิน ความคืบหน้ากรณี ไรเดอร์ชิงเงิน 3 ล้านล่าสุด หลังจากที่ จากพนักงานโรงงานเฟอร์นิเจอร์หรือเสมียนหญิง บ้านบึง จ.ชลบุรี ขณะที่สร้างสถานการณ์ทะเลาะวิวาทปมหึงหวง ตามที่มีรายงานไปก่อนหน้าดนี้
ล่าสุดตำรวจได้จับกุมผู้ก่อเหตุไรเดอร์ชิงเงิน 3 ล้านได้แล้ว
พร้อมกับเสมียนหญิง ซึ่งเป็นพี่น้องกัน โดยทั้งสองได้จัดฉากเหตุไรเดอร์ขโมยเงิน 3 ล้านในครั้งนี้ พร้อมยึดเงินของกลางที่จัดฉากชิงทรัพย์ไป 3,460,000 บาท ทางชุดสืบสวน ได้ไล่ตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดเส้นทางที่คนร้ายหลบหนี พบว่า รถจักรยานยนต์คันก่อเหตุ หลุดหายไปจากกล้องวงจรปิด ในพื้นที่หมู่ที่ 5 ตำบลมาบไผ่ อำเภอบ้านบึง จึงไปตรวจสอบปรากฏพบรถจักรยานยนต์คันก่อเหตุถูกทิ้งอยู่ในไร่อ้อย ใกล้กันพบผ้าห่มขนาดใหญ่ 1 ผืน เจ้าหน้าที่จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน
ต่อมาตำรวจสืบทราบว่าผู้ก่อเหตุได้ใช้รถกระบะ สีขาว ขนรถจักรยานยนต์คาดนำมาทิ้ง ก่อนขับกระบะไปจอดเคลมในอู่ซ่อมรถแห่งหนึ่ง ในพื้นที่ตำบลเสม็ด อำเภอเมือง จังหวัดชลบุรี พบชื่อผู้นำรถมาส่งซ่อม คือ นายจตุพล บุญมีสนม ผู้ก่อเหตุ ส่วนผู้ครอบครอง คือ นางสาวประภาพร เสมียนหญิง ทั้งคู่เป็นพี่น้องกัน
นายจตุพล ผู้ก่อเหตุยอมรับว่าเห็นโอกาสที่จะสามารถเอาเงินได้ พี่สาวจึงมาบอกให้มาทำทีชิงเงิน โดยนัดหมายเวลาที่ชัดเจนล่วงหน้าไว้แล้วว่า ก่อนหน้านี้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้รู้สึกติดใจเหตุดังกล่าวเนื่องจากผู้ก่อเหตุไรเดอร์ชิงเงินและผู้เสียหายมีนามสกุลเดียวกัน และตรวจสอบพบสัญญาณโทรศัพท์เชื่อมต่อกับผู้ต้องสงสัย อย่างไรก็ตามก่อนหน้านี้เสมียนหญิงได้ปฏิเสธไม่รู้เห็นกับผู้ก่อเหตุ
“เปิด 16 รายชื่อ สำนวนที่ 4 – คดีที่ 3 FOREX เป็นเบื้องลึกหลังจากที่ก่อนหน้านี้ มีการออกหมายเรียกไปแล้ว 4 จาก 16 คน ซึ่งสังคมทราบชื่อไปแล้ว ขณะที่รายชื่ออีก 12 คน ประกอบด้วย คนไทย : ฉัตรชัย หรือ เสือ, ธีรภัสกร หรือ มาร์ค , สุธิดา, อายุวัต , กัลยา, ศศิมา , อรรภพล , สุรนาถ , ไพศาล และ ปิยวัฒน์
ทั้งนี้ คนไทยอีก 5 คน ซึ่งมีรายงานว่าทั้ง 6 คนนี้เป็นกลุ่มที่มีความใกล้ชิดกับ นายอภิรักษ์ โกฎธิ ซีอีโอจาก Forex-3D มีพฤติกรรมแบ่งหน้าที่ในการชักชวนให้ผู้อื่นเข้ามาลงทุน และอาจมีเส้นทางการเงินเชื่อมโยง เป็นต้น ส่วนที่เหลืออีก 6 คน คาดว่าทางดีเอสไอ จะออกหมายเรียกเป็นชุดถัดไป
คืบหน้าคดีศพถูกเผาในโรงเรียน ตำรวจพุ่งเป้าฆ่าตัวตาย
คดีศพถูกเผาในโรงเรียน ตำรวจพุ่งเป้าฆ่าตัวตาย พยานเห็นเหตุการณ์เล่านาทีก่อนเสียชีวิต พบผู้ตายเดินไปกดตู้น้ำมันหยอดเหรียญ ภายหลังจาก เจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวนภูธรจังหวัดบุรีรัมย์ พร้อมตำรวจกองพิสูจน์หลักฐานภูธรจังหวัดบุรีรัมย์ลงพื้นที่ตรวจสอบที่เกิดเหตุ กรณี นายธนทัต หรือ “หนำ”ชายหนุ่มวัย 23 ปี ถูกพบเป็นศพเสียชีวิตอย่างโหดเหี้ยมภายในโรงเรียนบ้านแสลงโทน หมู่ 1 ต.แสลงโทน อ.ประโคนชัย จ.บุรีรัมย์ ซึ่งเป็นหมู่บ้านของภรรยาตัวเอง
โดยเหตุเกิดเมื่อคืนที่ผ่านมาซึ่งจากการตรวจสอบในที่เกิดเหตุพบขวดพลาสติก ถูกเผาละลายในที่เกิดเหตุ พบฝาเครื่องดื่มน้ำชา 1 ฝา และพบไฟแช็ค หล่นอยู่ข้างที่เกิดเหตุ 1 อัน จากนั้นได้ไปเก็บตัวอย่าง DNA ของหัวจ่ายน้ำมัน ที่ปั๊มน้ำมันหยอดเหรียญภายในหมู่บ้าน หลังมีพยานเห็นผู้เสียชีวิต เดินไปที่ปั๊มน้ำมัน แล้วเดินกลับไปทางโรงเรียน ซึ่งตรงกับภาพจากกล้องวงจรปิด
ความคืบหน้าล่าสุดตำรวจชุดสืบสวน สภ.ประโคนชัย ได้เข้าตรวจภาพจากกล้องวงจรปิด และหลักฐานโดยรอบที่เกิดเหตุ ปรากฏว่าไม่พบสิ่งผิดปกติ ไม่พบอุปกรณ์หรือภาชนะที่ใส่น้ำมัน สำหรับในการเผาในครั้งนี้
ขณะที่ นางสำเภา อายุ 56 ปี ผู้เห็นเหตุการณ์เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุเวลาประมาณ 18.00 น. ตนนั่งอยู่บริเวณสามแยกกับเพื่อนบ้านหลายคน เห็นนายหนำ ผู้ตายเดินมาเพียงคนเดียว
โดยวิถีีการเดิน นางสำเภาผู้ห็นเหตุการณ์ ระบุผู้ตายเดินมุ่งหน้าไปยังที่ปั๊มน้ำมันในหมู่บ้านซึ่งเป็นปั๊มแบบหยอดเหรียญ จากนั้นเดินย้อนกลับมาลักษณะเหมือนจะถือขวดอะไรบางอย่าง แนบกับอกมาด้วย
ชาวบ้านส่วนใหญ่ไม่รู้จักนายหนำมาก่อน เพราะเป็นเพียงเขยอยู่หมู่บ้านนี้ ส่วนสาเหตุการถูกเผาพวกตนไม่รู้เรื่องว่าเกิดอะไรขึ้น
ทั้งนี้มีรายงานจากเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า นายธนทัต เคยติดยาเสพติดมาก่อน และกำลังอยู่ระหว่างการบำบัดรักษาอาการ ป่วยเป็นโรคซึมเศร้า เบื้องต้นตำรวจตั้งปมฆ่าตัวตายเป็นประเด็นหลัก แต่ไม่ทิ้งประเด็นฆาตกรรม
ด้าน นางสาวยุพาภรรณ หรือ “ก้อย” อายุ 23 ปี ภรรยาผู้เสียชีวิต กล่าว่า ปกติสามีมักจะออกไปเดินนอกบ้าน ไปสูบบุหรี่ เดินเล่นตามปกติ ส่วนตัวเชื่อว่าสามีถูกทำร้าย อยากจะให้ตำรวจเร่งคลี่คลายคดีโดยเร็ว
ทั้งนี้ในส่วนของศพผู้เสียชีวิต ตำรวจได้ส่งไปซันสูตร สถาบันนิติเวช โรงพยาบาลตำรวจ เพื่อหาสาเหตุของการเสียชีวิตอีกครั้ง
อย่างฮา! ชาย แกล้งแก๊ง Call Center หลังแก๊งต้มตุ๋น ได้ยินชื่อสกุลไป พอได้ยินนามสกุลถึงกับกดวางสาย สงสัยมหัศจรรย์เกิน ผู้ใช้เฟซบุ๊ก Fab Richy Riches ได้โพสต์ข้อความเฟซบุ๊ก คลิปวินาทีที่แก๊งคอลล์เซนเตอร์โทรเข้ามาหวังตบทรัพย์ พร้อมข้อความที่ระบุว่า “แก๊ง callcenter เจอนามสกุลเข้าไป ถึงขั้นรีบวาง สงสัยมหัศจรรย์เกิ้นน”
Credit : แนะนำสถานที่ท่องเที่ยว | แต่งบ้านและสวน | พระเครื่อง | รีวิวกล้องถ่ายรูป